วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องเทคโนโลยีใหม่ที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวงการการเงินไปตลอดกาล หรือจะเรียกว่าธนาคาร 2.0 แห่งโลกอนาคตเลยก็ว่าได้ ..
เนื่องจากในบางประเทศได้หันมาให้ความสนใจกับ Blockchain มากขึ้นเรื่อย ๆ วันนี้เราจึงจะนำเรื่องนี้มาพูดกัน เนื่องด้วย เทคโนโลยี Blockchain ถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับประเทศไทยมาก
หากมองย้อนกลับไปประมาณ 5 ปีที่แล้วเทคโนโลยีนี้ได้ถือกำเนิดขึ้น และยังไม่ได้รับการยอมรับมากนัก ถ้านับย้อนไปช่วงเวลานั้นจนถึงปัจจุบันนี้ Blockchain ก็เริ่มได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น
Blockchain คืออะไร ?
คือเทคโนโลยี แต่มันคือเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคตที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงระบบการเงินในโลกยุคปัจจุบันให้มีความรวดเร็ว คล่องตัว และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น มันสามารถช่วยให้ผู้คนโอนเงินผ่านระบบดิจิตอลที่ถูกสร้างขึ้นด้วย Blockchain ไปถึงกันได้อย่างง่ายดายแบบ peer to peer
ไม่จำเป็นต้องมีตัวกลางอย่างธนาคาร หรือองค์กรใด ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง ..
แต่ ! ยังคงมีมาตรฐานที่ปลอดภัยในตัวของมันเอง เนื่องด้วยกระบวนการทำงานของ Blockchain จะมีลักษณะเหมือนห่วงโซ่ที่คล้องต่อเนื่องกันไป การเก็บข้อมูลจะถูกเข้ารหัสอย่างปลอดภัย และยากต่อการเข้ามาเปลี่ยนแปลงธุรกรรมในอดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งยากต่อการปลอม หรือปรุงแต่งข้อมูลอันเป็นเท็จเข้ามาซึ่งก็แก้ไขข้อมูลไม่ได้เลยนั่นเอง
ข้อดีของเทคโนโลยี Blockchain ถ้าเทียบกับระบบธนาคารยุคเก่าแบบ Single Gateway
1. ทำงานได้รวดเร็ว การโอนเงินสามารถทำได้ด้วยระยะเวลาอันรวดเร็ว ถ้าเราสังเกตุระบบธนาคารยุคไดโนเสาร์ การโอนเงินข้ามประเทศเป็นเรื่องยากมาก และใช้เวลานานอาจจะ 5-7 วันเป็นอย่างต่ำ แต่ถ้าเป็นเทคโนโลยี Blockchain แล้วคุณสามารถทำมันได้เพียงแค่ช่วงเวลาเสี้ยววินาที
2. มีความปลอดภัยสูง เนื่องด้วยเป็นการเข้ารหัสในการทำธุรกรรมทุกครั้ง ซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ และยังถูกผูกไว้เป็นรูปแบบโซ่คล้องต่อกันไป ถือเป็นเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยอย่างดีเยี่ยม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับข้อตกลงร่วมกัน (consensus) ตอนเริ่มโปรเจคของนักพัฒนาด้วย
3. Decentralized มีความเป็น decentralized ไม่มีใครเป็นตัวกลางในการควบคุมได้แม้กระทั้งหน่วยงานรัฐบาล แต่จะเป็นการตรวจสอบข้อมูลกันเองของระบบคอมพิวเตอร์ที่ถูกเรียกว่า Node ย่อมส่งผลให้ไม่สามารถถูกปรุงแต่งจากผู้ไม่หวังดีกับข้อมูลภายใน Blockchain ได้
4. การประยุกต์ใช้งาน นอกจากระบบธนาคาร บล็อกเชนยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในวงการธุรกิจได้อีกมากมายเนื่องด้วยประการทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นระบบการเลือกตั้งแบบโปร่งใส ระบบจัดเก็บภาษีแบบโปร่งใสเป็นต้น
จากทั้งหมดทั้งปวง Blockchain จึงถือเป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่จะพลิกโฉมวงการการเงิน วงการธุรกิจ และโลกนี้ไปตลอดกาล