ทำความรู้จัก Dropship คือ
Dropship คือการขายของออนไลน์โดยที่เราไม่จำเป็นต้องสต๊อกสินค้า แพ็กสินค้า และทำการจัดส่งสินค้าด้วยตัวเอง
คำถามที่ตามมาก็คือจะเรียกว่าการขายสินค้าได้อย่างไร ? คำถามเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราจะมาหาคำตอบกันว่ามันคืออะไร ทำงานอย่างไร ?
เริ่มต้นขายสินค้าแบบ Dropship
ขายสินค้าแบบ Dropship คือการขายสินค้าแบบไม่ต้องสต๊อกสินค้าให้ยุ่งยากอีกต่อไป เพียงแค่สมัครสมาชิกกับทางผู้ผลิต หรือคลังสินค้าที่เปิดให้บริการในรูปแบบ Dropship ทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ จากนั้นเราจะเป็นผู้นำสินค้าเหล่านี้จากบริการ Dropship ของผู้ผลิตไปเสนอขาย เมื่อลูกค้ามีการสั่งซื้อผ่านทางหน้าร้านเรา และชำระเงินมา เราจึงสั่งสินค้า และการชำระเงินไปที่ผู้ผลิต หรือคลังสินค้าที่เราได้สมัครสมาชิกไว้ สินค้าก็จะทำการจัดส่งโดยไม่ผ่านมือเรา พูดง่าย ๆ เราเหมือนคนกลางในการขายสินค้าโดยไม่จำเป็นต้องสต๊อกสินค้าเหล่านั้นด้วยตัวเอง
คำจำกัดความที่เราต้องทำความรู้จัก
- Seller (ผู้ขาย) : ในที่นี้หมายถึง “ตัวเราเอง” คือผู้ที่สนใจขายสินค้าแบบ Dropship มีหน้าที่หลักในการหาร้านค้าที่มีสินค้าอยู่จริง มีการจัดส่งที่ถูกต้องตรงต่อเวลา ไม่ล่าช้า จากนั้นก็นำสินค้าจากแหล่งเหล่านั้นไปวางขาย
- Customers (ลูกค้า) : ในที่นี้หมายถึง “ผู้ซื้อ” ที่เรามีหน้าที่ให้บริการ ตอบคำถามเกี่ยวกับสินค้านั้น ๆ และติดตามรายละเอียดการจัดส่งสินค้าจาก Dropshipper มีการแจ้งสถานะให้ทราบเป็นระยะ
- Shop Online (ร้านค้าออนไลน์) : “พื้นที่สำหรับวางขายสินค้า” ซึ่งควรอยู่ในรูปแบบเว็บไซต์ หรือโซเชียลมีเดียมีทั้งแบบฟรี และเสียเงิน
- Dropshipper (คลังสินค้า) : หรือ “ผู้ให้บริการ Dropship” ที่เป็นเสมือนคลังสินค้า และมีบริการจัดส่งสินค้าในนามของผู้ขายด้วย
ขั้นตอนขายสินค้าแบบ Dropship
ในแต่ละผู้ให้บริการขายสินค้าแบบ Dropship อาจมีขั้นตอนที่แตกต่างกันของระบบสมาชิก หรือเงื่อนไขอื่น ๆ ของผู้ผลิตสินค้า แต่โดยภาพรวมแล้วมีขั้นตอนหลักดังนี้
STEP 1 : “สมัครเป็นผู้ขายผ่านบริการ Dropship”
STEP 2 : “นำสินค้าไปวางขาย”
STEP 3 : “ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าผ่านหน้าร้านผู้ขาย”
STEP 4 : “ผู้ขายทำการสั่งสินค้า และชำระเงิน”
STEP 5 : “Dropshipper จะทำการจัดส่งสินค้าภายใต้ชื่อร้านค้าของผู้ขาย”
ข้อดีการขายสินค้าแบบ Dropship
- ลดความเสี่ยงจากการขายสินค้าไม่ได้ : ซึ่งถือเป็นข้อดีของการขายแบบ Dropship เลย เนื่องจากไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อสินค้ามาสต๊อกไว้เอง
- ไม่ต้องแพ็กสินค้า หรือจัดส่งสินค้า : ทาง Dropshipper จะจัดส่งสินค้าตามที่ลูกค้าสั่งมาในนามหน้าร้านของผู้ขายเอง ช่วยให้ประหยัดเวลา และสะดวกอย่างมาก
- ไม่ต้องมีคลังจัดเก็บสินค้า : ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเช่าพื้นที่จัดเก็บสินค้า
- มีเวลาทำการตลาด และหาลูกค้าเพิ่ม : เราจะมีเวลาในการมองหาลูกค้ามากยิ่งขึ้นเนื่องจากในส่วนจัดการสินค้า Dropshipper จะดำเนินการให้เราทั้งหมด
- สร้างฐานลูกค้าได้ : การขายสินค้าแบบนี้ Dropshipper จะจัดส่งสินค้าภายใต้ชื่อร้านค้าของเรา ถ้าเราบริการดี ลูกค้าก็จะกลับมาซื้อสินค้าของเราอีกครั้ง
ข้อจำกัดการขายสินค้าแบบ Dropship
- ต้องเรียนรู้เงื่อนไข : ก่อนที่เราจะทำการขายสินค้าแบบ Dropship เราต้องอย่าลืมว่า Dropshipper แต่ละที่จะมีเงื่อนไขในการสมัครสมาชิกที่แตกต่างกัน ฉะนั้นเราจำเป็นต้องเรียนรู้เงื่อนไขเหล่านี้ก่อนเป็นอันดับแรก
- คุณภาพของสินค้า และความน่าเชื่อถือของ Dropshipper : ถือเป็นสิ่งสำคัญเราควรตรวจเช็กให้ดี เพราะเมื่อเกิดปัญหาขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่ลูกค้าไม่ได้รับสินค้าตรงตามเวลา หรือสินค้าที่ส่งไปไม่มีคุณภาพตามที่ได้แจ้งไว้ เราในฐานะผู้ขายจะต้องเป็นผู้ให้คำตอบปัญหาเหล่านี้
เป็นยังไงกันบ้างครับรู้จักกับ Dropship กันไปบ้างแล้ว มีข้อดีเยอะมากเลยใช้ไหมครับกับการขายของออนไลน์ที่ไม่จำเป็นต้องลงทุน เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และข้อดีอีกมากมายที่ได้กล่าวไปข้างต้น ที่เหลือก็แค่ลงมือทำมันให้ประสบผลสำเร็จ แล้วอย่าลืมให้ความสำคัญกับลูกค้าของเรากันด้วย ยิ่งถ้ามีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่นเท่าไหร่ก็ย่อมมีชัยไปมากเท่านั้น